การทำไอศครีมกะทิสดสูตรโบราณ
วิธีทำทำไอศกรีมกะทิตามวิธีการข้างบนเลยครับ ใช้มะพร้าวกะทิ ที่เเก่(ลองเขย่าจะมีน้ำด้านใน) เเละนำน้ำกะทิมารวมกับน้ำตาลที่เราเคี้ยวกับเเม้งมันสัมปะหลังไว้ เเละน้ำไปใส่ถัง เพื่อปั่น
พอเอาไอติมออกจากเครื่องปั่นก็เอาไปแช่แข็งสัก 2 ชั่วโมง สิ่งที่ได้จะยังไม่แข็งพอที่จะกินได้ แต่ก็
ไม่ละลายง่ายๆ เอาออกจากตู้แช่มารองน้ำแข็งคลุกเกลือ เราจะได้สิ่งที่เห็นในภาพ

ตักไอติมขึ้นมาปาดลงบนหม้อหรือภาชนะสแตนเลสที่แช่เย็นจัด ปาดเกลี่ยให้ทั่วแล้วโรยลอดช่อง แล้วปาดไอติมทับแล้วโรยลอดช่อง
ทำเป็นชั้นๆ ไม่ต้องเป็นระเบียบ พอเสร็จแล้วก็คนเบาๆ อย่าให้ลอดช่องเละมาก จาำกนั้นก็เอาเข้าแช่แข็ง
เวลาทานลอดช่องจะแข็งนะคะ ดังนั้นอย่าใส่ลอดช่องเยอะเกิน และไอติมควรทำให้หวานจัดสักหน่อย (น้ำตาล 130 กรัม) จะได้ตัดกับ
เนื้อลอดช่องที่จืด
ไอศกรีมกะทิเผือก
ส่วนผสมเหมือน คห. 5 ทุกประการ แต่เพิ่มผงเผือกเข้าไป ผงเผือกนี้หาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ทำขนมหรือเบเกอรี่ เราซื้อที่ร้านแถวบ้านนี่เอง
หรือที่แมคโครก็มีขาย
ใช้ผงเผือกประมาณ 40 - 50 กรัม ชิมดูด้วยว่ามันหวานหรือเปล่า ถ้าหวานเราอาจต้องลดน้ำตาลในสูตรลงสักหน่อย
บางคนอาจสงสัยว่าถ้าใช้เนื้อเผือกนึ่งเลยจะได้ไหม บางสูตรจะเอาเนื้อเผือกนึ่งมาปั่นผสมลงไป เราเคยลองทำแบบนั้นแต่ปรากฏว่าได้เนื้อไอติม
ไม่ดี มันไม่เนียนและเหนียวหนึบน่ะค่ะ ออกแนวไอติมโบราณ
ดังนั้นเราจึงใส่ผงเผือกแทน ปัญหาก็คือใส่ตอนไหน จำตอนที่เรียนไอติมชาเขียวได้หรือเปล่าคะ เราใส่ผงพวกนี้ลงไปหลังจากกวนน้ำตาลทราย
และ sep จนละลายเข้ากันดีแล้ว ใส่ผงเผือกลงไปแล้วกวนจนละลายดี วิธีดูว่ามันละลายดีหรือยังก็ให้ชิมดู ถ้าละลายมันก็จะไม่สากๆ ลิ้น
พอละลายดีก็เทส่วนนี้ลงในชามผสมซึ่งมี นมผง น้ำตางเด็กซ์โตรส (กลูโคส) เกลือ และเนยขาว อาจจะหยดสีม่วงลงไปหน่อยก็ได้ค่ะ
ขั้นตอนที่เหลือก็ทำเหมือนไอศกรีมกะทิธรรมดาเลย
พอบ่มครบ 4 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำเราก็เอาเข้าเครื่องปั่นไอติม ปั่นเสร็จเอาออกจากเครื่องไปแช่แข็งสัก 2 ชั่วโมง ระหว่างนั้นเราก็ไปเตรียมสิ่งนี้ค่ะ
ในภาพคือเผือกนึ่ง เอาเอาเผือกมาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า แล้วนำไปนึ่งจนนิ่มเหนียวหนึบ แล้วเอาไปแช่เย็นรอไว้

พอแช่ไอติมครบ 2 ชั่วโมงเราก็เอาออกมา คราวนี้ทำคล้ายไอติมกะทิลอดช่องค่ะ คือเอาไอติมปาดลงบนภาชนะสแตนเลสแช่เย็น บี้เผือกนึ่ง
เป็นชิ้นเล็กๆ โรยลงไป เอาไอติมปาดทับสลับกับเผือก อย่าใส่เผือกเป็นชิ้นใหญ่ๆ เพราะสุดท้ายเผือกจะแข็ง อาจจะกัดไม่เข้า และอย่าใส่
เยอะเกินไปเพราะอย่างที่บอกว่ามันแข็ง ใส่พอสวยๆ ให้ได้กลิ่นอายของเผือกก็พอ และไอติมควรจะหวานจัดสักหน่อยเพราะเผือกมันจืด
กวนๆ ให้เผือกกระจายไปทั่ว เสร็จแล้วได้แบบนี้ นี่ยังกินไม่ได้นะคะ ต้องเอาไปแช่ให้แข็งกว่านี้ ถ้าจะใส่ถ้วยขายก็ตักใ่ส่ถ้วยในขั้นตอนนี้เลย
แล้วเอาเข้าแช่แข็ง แต่ถ้าจะตักขายเป็นลูกก็เอาเข้าตู้แช่เลย

ไอศกรีมกะทิ - ช็อคโกแลต
ไอศกรีมสูตรนี้ทำขึ้นมาเพื่อคนแพ้นมค่ะ มาดูกันเลย
ส่วนผสม
เหมือนไอศกรีมกะทิทุกประการ แต่เอานมผงออก และแทนที่ด้วยผงโกโก้
วิธีทำ
ทำเหมือนไอติมกะทิเลยค่ะ แต่เอาผงโกโก้ตุ๋นรวมกับกะทิ ห้ามขึ้เกียจร่อนผงโกโก้นะคะ สำคัญมาก

ร่อนเสร็จก็เทลงหม้อกะทิที่กำลังตุ๋นร้อนได้ที่แล้ว(แต่ยังไม่แตกมัน) คนไปเรื่อยๆ ระวังอย่าให้กะทิแตกมัน ชิมดูเป็นระยะ ถ้าโกโก้ละลาย
จะไม่รู้สึกสากๆ ลิ้น ผงโกโก้ละลายยากค่ะ ต้องระวังให้มาก ถ้าไม่ละลายไอติมเราจะเสียไปเลย เพราะกินแล้วระคายคอพิกล

อีกวิธีที่จะละลายผงโกโก้ คือเทผงโกโก้ลงไปในหม้อที่กวนน้ำตาลกับ sep จนละลายแล้ว เราเทผงโกโก้ลงไปแล้วกวนต่อ (บนไฟ)
ชิมดูว่าไม่สากลิ้นก็เป็นอันใช้่ได้ค่ะ วิธีนี้เหมาะกับมือใหม่เพราะง่าย
การกวนผงโกโก้กับกะทิจะยากหน่อยเพราะให้ความร้อนมากไม่ได้เนื่องจากกะทิจะแตกมัน แต่วิธีนี้จะได้กลิ่นหอมค่ะ ลองนึกถึงกลิ่น
มาพร้าวคั่ว + กลิ่นช็อคโกแลต มันหอมมากๆ
นี่คือภาพไอติมที่กำลังตักออกจากเครื่องค่ะ เราทำน้อยก็เลยใช้เครื่อง nemox เนื้อไอติมที่ได้ไม่เนียนและเหนียวหนึบเท่าใช้นมสด

แต่พอเอาไปแช่เย็นสักครู่เนื้อจะเนียนแน่นขึ้น

พอแช่แข็งจนกินได้ เนื้อจะเนียนใกล้เคียงสูตรที่ใช้นมสด ถ้าไม่บอกคนกินจะไม่ทราบว่าทำจากกะทิ
สูตรนี้่คนแพ้นมและคนเป็นมังสวิรัตกินได้ค่ะ
สูตรนี้ยังดัดแปลงเป็นรสอื่นๆ ได้อีก เช่นรสชาเขียว ชาเย็น แค่เราเปลี่ยนจากผงโกโก้เป็นผงอื่นๆ
(โปรดอย่าลืมสูตรเเต่ละคนไม่เหมือนกันเอกลักของคนเเต่ละคนก็เช่นกัน)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น